วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 4 / Day 3-4 ควบ Week 5 / Day 1-4 ตัวเลขไม่โกหก

          งานเข้าเต็มๆ สำหรับเดือนเริ่มต้นปี 2556   เริ่มงานเช้ามืด เลิกดึกเป็นประจำ เลยทำให้ตารางเวลาฝึกซ้อมแปรปรวนอย่างหนักถึงหนักมาก  อาทิตย์ที่ 2 และ 4 ของเดือนนี้ หยุดวิ่งติดกัน 3 วัน ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย  ถ้าทำได้จะแบ่งร่างไว้ร่างนึงสำหรับการวิ่งโดยเฉพาะ  พอไม่ได้วิ่งประจำเหมือนเดิม น้ำหนักก็เริ่มขึ้นมาอย่างทันตาเห็น

            เวลาจะวิ่งยังไม่มี เวลาอัพเดต Blog แทบไม่ต้องพูดถึง วันนี้เลยรวบรัดเอาสถิติหลายๆ วันมาควบรวมไว้ในบันทึกเดียวกัน  พอเอาสถิติตัวเลขค่าเฉลี่ยความเร็วของสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบกันชัดๆ ก็ทำให้เห็นตัวเลขพัฒนาการอีกขั้นของความเร็วเฉลี่ยของตัวเอง สำหรับระยะทางเฉลี่ย  5 - 7 กม. เวลาที่ทำได้ ดีขึ้นทีละเล็กละน้อย เหมือนดอกเบี้ยในบัญชีออมทรัพย์ (น้อยมากๆ) แต่ก็ยังดีกว่าไม่กระดิกซะเลย  ผลพลอยได้คือ ร่างกายฟื้นตัวหลังวิ่งได้เร็วขึ้น ไม่โทรมเหมือนหัดวิ่งใหม่ๆ  และอาการบาดเจ็บเริ่มน้อยลง แต่หัวเข่าซ้ายเจ้ากรรมก็ยังคงเจ็บต่อเนื่องไม่หาย


           ช่วงหลังของเดือนเลยปรับกลยุทธ์ในการใช้ช่วงเวลาที่พอมีอยู่ให้กับการปั่นจักรยาน เปลี่ยนบรรยากาศดีเหมือนกัน


         ผ่านการฝึกมาถึงสัปดาห์ที่ 5 แล้ว ใกล้จะครึ่งทาง เห็นตัวเลขเป็นหลักฐาน ว่าการฝึกได้ผลพอสมควร  เดือนกุมภาพันธ์คงจะทำสถิติเฉลี่ยต่ำกว่า 6.00  นาที / กม. แน่ ๆ

        

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

อ่านเรื่องวิ่ง

        นั่งอ่านบทความเรื่อง วิ่ง แช็ต แชร์ โดย Berry View เป็นทั้งนักเขียนอาชีพและนักวิ่งสมัครเล่นที่จริงจังกับการวิ่งพอๆ กับการเขียนหนังสือ

        ได้รู้จักพูดคุย Berry ผ่านตัวหนังสือใน Facebook นี่เป็น GM เล่มแรกในรอบหลายปี ทำให้รู้ว่าเดี๋ยวนี้ เค้าพิมพ์ตัวหนังสือเล็กมากซะจนอยากไปค้น GM เล่มเก่าๆ มาเทียบดูว่า ตัวหนังสือเล็กลง หรือสายตาเราสั้นขึ้น ^ ^

ทดสอบการโพสผ่าน iPhone

ก้าวเล็กๆ เพื่อมุ่งสู่ half marathon

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 4 / Day 2 - วิ่งข้างถนน

      ตะลอนไปต่างจังหวัดอีกรอบ เที่ยวนี้ยังไงก็จะต้องหาเวลาวิ่งให้ได้ เพราะหยุดวิ่งถี่เกินไปแล้ว แต่ธุระเยอะยังไง ก็ไม่เท่าจำนวนหมาข้างถนนที่วิ่งไล่เรา


วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 4 / Day 1 - Speed up pace

          วิ่งแบบเร็วขึ้น เหนื่อยสุดๆ จนได้ยินเสียงปอดตัวเองกรีดร้อง  นี่เบาะๆ แค่ pace ประมาณ 6 min/km พวกที่วิ่ง pace ต่ำกว่า 5 min/km เค้าหายใจทางไหนกัน


วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 3 / Day 5 - No Brain, No Pain เป็นหุ่นยนต์ซะบ้างก็ดี

                อาทิตย์ที่ผ่านมา หยุดซ้อมไป 4 วัน  ซึ่งมากพอที่จะทำให้ร่างกายลืมไปเลยว่าเคยวิ่งได้   ต้องมาเริ่มลากท่อนซุงที่ท่อนใหญ่ขึ้นกันใหม่  ด้วยความที่ต้องตะลอนไปต่างจังหวัด อุตส่าห์ เหน็บรองเท้าวิ่งไปด้วย  ก็วิ่งได้แค่วันเดียว  ข้อแก้ตัวเยอะอีกตามเคย    ความขี้เกียจชนะความตั้งใจ แบบ TKO คาเวที กรรมการนับสิบก็ลุกไม่ขึ้น

              มีเรื่องมากมายหลายอย่างในชีวิตที่ต้องเอาใจจดใจจ่อกับเรื่องเหล่านั้น  การวิ่งก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามพัฒนาการวิ่งของตัวเองให้วิ่งได้สนุกขึ้น  ไกลขึ้น และเร็วขึ้น     แล้วตั้งใจฝึกซ้อมวิ่ง ทำไมตั้งยากจัง?  มานั่งพิจารณาดู  "ตั้งใจ" เป็นคำในภาษาไทยที่ทำให้เห็นภาพชัด  เป็นคำนามธรรมที่เป็นรูปธรรมดี  ถ้าเปรียบเป็นวัตถุได้  "ใจ" คงเป็นไข่ใบรีๆ ที่มักจะล้มกลิ้งไปกลิ้งมาได้ง่ายเสียเหลือเกิน    หากเจ้าของใจ ไม่คอยเอามือไปจับ ไปประคองมันให้ตั้งตรงอยู่เสมอ   มันก็พาลจะล้มกล้ิงแบบไร้ทิศทางได้ทุกทีไป

             เช้านี้ก็เกือบจะโดนความขี้เกียจครอบงำจิตใจอีกหน  แต่รู้ทันรีบลุกขึ้นเตรียมตัว ล้างหน้าใส่รองเท้าวิ่งรอไว้ก่อน   ขอทำทุกอย่างแบบไม่ใช้สมองแล้วกัน  คิดเยอะปวดหัว  ทำตัว เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ว่า ตื่นปุ๊บ ให้เตรียมใส่รองเท้าวิ่งไว้ก่อนดีกว่า ^  ^    ส่วนจะออกไปวิ่งหรือไม่ เอาไว้คิดหลังจากใส่ชุดวิ่งเรียบร้อยก่อน  ปรากฎว่าได้ผล ในที่สุดก็ขุดตัวเองออกจากบ้าน ออกไปวิ่งได้สำเร็จ 

               วิ่งฝืดดดด  เพราะหยุดมาหลายวัน  วันนี้มีคนมาออกกำลังกายเยอะเป็นพิเศษ คงเพราะอากาศที่ยังเย็นสบายอยู่   หลายคนเดินออกกำลังกายไป  คุยกับเพื่อนไป เดินเรียงหน้ากระดานเป็นแผงขายลอตเตอรี่เลย  หลากหลายวัย เต็มทางวิ่ง    วิ่งๆ ไปก็ต้องชลอ ขอทางไป   เลยได้โอกาสซ้อมวิ่งหลบคน เหมือนตอนออกจากจุดสตาร์ทตอนวันแข่ง ได้พักเหนื่อยไปในตัว

               ระหว่างวิ่งไปหยุดไปแบบนี้  ทำให้เกิดไอเดีย เกี่ยวกับการจัดนักวิ่งที่จุดสตาร์ทของเมืองไทยว่า  น่าจะจัดกลุ่มนักวิ่งที่มีฝีเท้าพอๆ กัน ไว้ในกลุ่มเดียวกัน   ใครเร็วสุดประเภทหวังถ้วย หวังรางวัล   ก็ให้เขาเหล่านั้นไปอยู่กลุ่มหน้าสุด   ส่วนเร็วน้อยกว่าก็ลดหลั่นกันมา  พวกที่หวังวิ่งไป ชมบรรยากาศไป ก็ถอยมาท้ายอีก  ส่วนพวกที่รู้ตัวว่า หรือตั้งใจว่า จะวิ่งไป  เดินกินขนมไป  ถ่ายรูปไป เดินจีบกันไป ก็ไปอยู่กลุ่มท้ายสุด   ก็น่าจะบรรเทาเหตุการณ์ที่นักวิ่งต้องคอยวิ่งตุปัด ตุเป๋ ชนกัน กระทบไหล่กัน หลบนักวิ่งที่วิ่งช้ากว่าตอนปล่อยตัว

                เฮ้อออ....ว่าจะวิ่งแบบไม่ใช้สมอง ก็ดันอดคิดไม่ได้


วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 3 / Day 4 - วิ่งต่างจังหวัด

              ไปวิ่งที่อุทัยธานี  วิ่งเรื่อยๆ ไปตามข้างถนน เบื่อหมาที่ไล่กัดมากๆ   ต้องคอยระแวง จนไปเจอสนามกีฬาเล็กๆ ของหน่วยงานอะไรจำไม่ได้  เห็นคนกำลังเตะฟุตบอลกันอยู่เลย ถือวิสาสะเข้าไปวิ่งรอบๆ วิ่งตอนเย็นไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าวิ่งตอนเช้า  สงสัยเราจะเป็นคนที่ถูกจัดในหมวดกลางคืนจริงๆ



วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 3 / Day 2 - Speed Intervals ยิ่งเครียดยิ่งวิ่ง

6 x 100m Strides
4 x 1200m + 2:30 min Easy jog in between

          ตื่นสาย ทำให้วิ่งไม่ครบระยะ ต้องรีบไปทำงาน เครียดกับชีวิต เลยระบายความเครียดออกด้วยการวิ่งซ้ำตอนค่ำอีกรอบ พอได้เหงื่อก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ

          เวลาและสถานที่บังคับให้ต้องวิ่งตอนเช้าเป็นหลัก แต่วันนี้ลองวิ่งค่ำดู เปรียบเทียบความรู้สึกระหว่างวิ่งเช้ากับวิ่งค่ำ รู้สึกว่าวิ่งค่ำจะแรงดีกว่า ไม่รู้สึกอืด และเหนื่อยเหมือนตอนเช้า ก็แปลกดีเพราะทำงานมาทั้งวันน่าจะหมดแรง แต่กลับวิ่งได้มันส์กว่า สบายตัวกว่า

          ค่ำนี้ฟังเพลงญี่ปุ่นประกอบการวิ่ง คือ วง D.W.ニコルズ  วงนี้แนะนำและนำมาฝากโดยรุ่นน้องที่กลับจากการไปทัวร์แดนอาทิตย์อุทัยแบบ Backpacker 1 เดือนเต็มๆ (ซึโค่ยยยย)  ถึงฟังไม่ออกแต่กลับสัมผัสได้ด้วยใจมากกว่าหลายเพลงที่ฟังรู้เรื่องด้วยซ้ำ  ^ ^

          ตามไปควานหา  MV ของวงนี้ดูใน YouTube   เพลง  B.D.K   ถ่ายแบบ Long take  ทั้งเพลง และตัดสลับกับ  CU  และ  Wide shot ตบท้าย   /    ส่วน เพลง  I like you   ตั้งกล้องถ่ายกันโต้งๆ ไม่เคลื่อนกล้อง แต่อาศัยเทคนิคการตัดต่อง่ายๆ  จงใจใช้ Jump cut โดยไม่สนใจ  Continuity เลย  กฎมีเอาไว้แหกอย่างนี้แหละ สนุกดี ถ้าใช้ถูกที่ถูกเวลา ก็กลายเป็นสไตล์ได้เลย

สองคำสำหรับวงนี้  --> สะ-หนุก สด-ใส  ยิ่งพอได้ดู MV  แล้ว  ชอบมือเบสเป็นพิเศษ ผู้หญิงอะไรเท่ห์ชะมัด

สถิติภาคเช้า



สถิติภาคค่ำ


*** น้ำหนักจาก 74 - 75 Kg เมื่อ กลางเดือนธันวาคม 2555
       อาทิตย์นี้ ลงมาแกว่งตัวอยู่ที่ 73.5 - 74.5 Kg


วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

Week 3 / Day 1 - วิ่งตามอำเภอใจ

                   ตามโปรแกรมวันนี้ไม่มีวิ่ง ด้วยความที่หยุดวิ่งไปหลายวัน ก่อนนอนจึงตั้งใจว่า ตอนเช้าควรจะต้องออกไปยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยเพื่อเริ่มกลับเข้าสู่โปรแกรมการฝึกซ้อม  พอถึงเวลาตื่น เสียงนาฬิกาปลุกดังนานแล้ว นอนทำเป็นหูทวนลม  เช้าๆ อากาศเย็นสบาย ภายใต้ผ้าห่มอุ่นๆ แบบนี้  ทำให้เกิดอาการขี้เกียจอย่างแรงยกกำลังสิบ  สองจิตสองใจว่า นอนต่อซักหน่อยก็ดีนะ อากาศอย่างนี้ สวรรค์ชัดๆ  ตรงนี้แหละที่เป็นการยื้อกันอย่างหนักหน่วงระหว่างความขี้เกียจ กับ ความตั้งใจ

                หลังจากยื้อกันอยู่นาน ในที่สุดความตั้งใจก็ชนะ แต่โดยมีข้อแม้กับความขี้เกียจว่า วิ่งตามอำเภอใจแล้วกัน ไม่ต้องหวังอะไรมาก แค่วิ่งให้เหงื่อออกก่อนทำงาน

                เริ่มวิ่งลากท่อนซุงตามระเบียบ แต่วันนี้รู้สึกว่า ซุงท่อนใหญ่กว่าปกติ  เปิดเพลงสบายๆ ฟังไปขณะวิ่ง โดยไม่สนใจอะไร  วิ่งไปได้ประมาณ 4 km เริ่มรู้สึกแน่นหน้าอก เหมือนกับจะเป็นลม  ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน เดาว่า คงเป็นเพราะหลายวันที่ผ่านมา ฉลองปีใหม่หนักไปหน่อย ทั้งกิน ทั้งดื่ม จนร่างกายประท้วง  เข่าซ้ายก็ปวดอยู่ ไม่เท่าไหร่ เข่าขวาเริ่มเรียกร้องความสนใจกับเค้าบ้าง  ยอมจบที่ 5 km.




วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

My New Year Resolutions in 2013 - ความตั้งใจในปี 2556

งานฉลองปีใหม่จบลงแล้ว สำหรับชีวิตเรื่องวิ่ง มี 2 อย่าง ที่ตั้งใจทำให้สำเร็จภายในปีนี้

1. วิ่ง Mini-marathon ให้ต่ำกว่า 1 ชม.
2. วิ่ง Half-marathon โดยไม่หยุดเดิน

          จากการติดตามสถิติของเพื่อนนักวิ่งทั้งใน Endomondo และ Facebook มันง่ายมากสำหรับนักวิ่งเหล่านั้น แต่สำหรับตัวเองโคตรยาก

          ยากยังไง?  อายุ สภาพร่างกาย งาน เวลาสำหรับฝึกซ้อม ความขี้เกียจ ฯลฯ แค่คิดเท่านั้น อุปสรรคร้อยแปดพันประการ วิ่งประดังพรั่งพรูผ่านเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น ทั้งสองข้อเหมาะสมแล้วที่จะเป็นส่ิงท้าท้ายที่ต้องทำให้ได้ในปีนี้

         สรุปรายการวิ่งปี 2555

         11 พย. 55  วิ่งสุขใจชมไพรปากช่อง ครั้งที่ 7  (mini)  ร่วมวิ่งกับนักวิ่งคนอื่นๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต งานเล็กแต่น่ารัก เหนื่อยแต่สนุก ประทับใจ
   
         18 พย. 55 กรุงเทพมาราธอน (mini) งานใหญ่ที่ไม่ประทับใจ  /  ทั้งๆ ที่สมัครล่วงหน้าเป็นเดือนๆ วุ่นวายตั้งแต่ไปรับเบอร์ ต้องเขียนรายละเอียดใหม่อีกรอบเหมือนไปสมัครใหม่ / น้ำขาด / ป้ายบอกระยะไม่ตรงจุด / จุด Finish ก็วุ่นวายไม่ชัดเจน คนยืนออเต็มไปหมด เข้าเส้นแบบงงๆ  /  วิ่งจบไปเป็นเดือน กว่าจะได้เสื้อ ได้เหรียญ

         5 ธค. 55 วิ่งเพื่อพ่อ สวนลุม (mini)  ไม่มี Size เสื้อ ไม่ว่ากันเพราะเราพึ่งไปสมัครที่หน้างาน /  ชอบการเคลียร์ถนน ไม่ต้องหยุดวิ่งรอรถ / จุดให้น้ำคนน้อย เตรียมน้ำให้นักวิ่งไม่ทัน จนนักวิ่งต้องหาแก้วเอง แล้วใช้มือจ้วงเข้าไปในถังน้ำดื่มกัน / ตอนจบวุ่นวายมาก ได้เห็นความไม่มีระเบียบของนักวิ่งส่วนใหญ่ มีการร้องโหวกเหวกโวยวาย / ไม่มีการเข้าแถวรับเหรียญ แย่งเหรียญกันเหมือนเทศกาลเทกระจาด เห็นแล้วเพลียใจ จนต้องขอปลีกตัวออกห่างๆ ความโกลาหล  (งานนี้ให้ถ้วยเล็กๆ แทนเหรียญ)

        16 ธค. 55  2nd Thailand International Half Marathon 2012 สะพานพระราม 8 (mini) ตอนไปรับเบอร์กับเสื้อ หงุดหงิดกับความไม่เป็นระเบียบของนักวิ่ง ที่ไม่เข้าแถวกัน หรือเป็นเพราะผู้จัดไม่กั้นทำแถวให้ / ผู้จัดไม่มีความชัดเจนว่า นักวิ่งประเภทไหน ควรจะติดต่อที่โต๊ะไหน ใครแย่งติดต่อก่อนก็ได้คุยก่อน เห็นเจ้าหน้าที่หาเอกสารในกองใบสมัครของนักวิ่งกันให้วุ่นวาย ไม่มีการจัดเรียง แบ่งหมวดหมู่ข้อมูลกันไว้ล่วงหน้า เพื่อให้หาได้ง่ายกว่านี้หรือ? / วิ่งสนุก เป็นไปตามแผนที่วางไว้ / วิ่งบนสะพานลอยฟ้า ไม่มีปัญหาเรื่องการจราจร / น้ำขาด / ตอนวิ่งเสร็จ โอเค ที่เห็นทุกคนเข้าแถวกันรับอาหาร และน้ำ / เหรียญเสื้อ ไม่มีปัญหา

        สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ สรุปสิ่งที่จะต้องเจอและทำใจ กับรายการวิ่งต่างๆ คือ

                วันไปรับเสื้อและเบอร์ติดเสื้อ (Bib) -  ความวุ่นวายของนักวิ่งที่ไม่มีระเบียบ ไม่รู้จักการเข้าคิว ,เจ้าหน้าที่หาเอกสารเราไม่เจอ ทั้งๆ ที่สมัครและโอนเงินล่วงหน้าไว้แล้ว, เสื้อหมด หรือไม่มี Size ที่เราจองไว้
                วันแข่ง - ไม่มีป้ายบอกระยะทาง / แก้วน้ำหมด / น้ำหมด / เหรียญหมด ให้ไปรับวันหลัง / เส้น Finish ไม่ชัดเจน คนยืนออกันตรงนั้นเต็มไปหมด


          บทสรุป PB ของตัวเองจากปี 2555 / 2012



          ระหว่างไปพักผ่อน ขอวิ่งให้ร่างกายไม่ลืมความเหนื่อย ถือเป็นการวิ่งฉลองปีใหม่ 2556 ก็แล้วกัน พรุ่งนี้เริ่มโปรแกรมฝึกซ้อม ต่อจากปีที่แล้ว  Fightto!!!